เมื่อสมัยฉันยังเด็ก ฉันอาศัยอยู่กับแม่เพียงสองคนตามลำพังเนื่องจากท่านพ่อได้แยกทางกับแม่ของฉันตั้งแต่ฉันยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำชีวิตวัยกำลังซนของทุกคนมักจะพบกับภาพของพ่อแม่คอยดูแลคอยเอาใจใส่คอยสั่งสอน แต่ผิดกับฉันที่แค่สุขภาพร่างกายก็แย่จัดเนื่องจากเป็นภูมิแพ้อากาศ และยังสายตาสั้นแต่เด็กอีกอะไรๆจึงลำบากไปซะหมด แถมแม่ของฉันก็ไม่ได้สนใจฉันสักเท่าไหร่อาจจะเพราะวิธีสอนให้ลูกแก้ปัญหาด้วยตัวเองก็ได้
ซึ่งมันก็ทำให้ตลอดชีวิตฉันไม่ได้รู้สึกสนุกหรือสวยสดงดงามอะไรเลย แต่ก็มีเด็กหญิงคนนึ่งที่เข้ามาเปลี่ยนมุมมองฉันในตอนนั้นซึ่งหล่อนก็แนะนำชื่อเล่นตนว่า
"พุตดิ้ง"
พุตดิ้งมักจะคอยมาเล่นกับฉันบ่อยๆ หล่อนมักจะคอยถามเรื่องที่ฉันเจอมาในแต่ละวัน คอยดูแลเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลาราวกับพี่น้องทางสายเลือดกัน ความผูกพันธ์ของเราสองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนฉันแทบจะขาดหล่อนไปจากชีวิตในตอนนั้นไม่ได้เลยแม้แต่1วัน แต่แล้ววันสุดท้ายที่ฉันนับพี่น้องกับหล่อนก็มาถึง
ในวันนั้นพุตดิ้งและฉันกำลังเดินกลับจากโรงเรียนประถมด้วยกันแต่ก็ถูกเหล่านักเลงวัยจิ๋วเข้ารุล้อมเพื่อหวังจะขู่ขโมยเงิน ซึ่งแน่นอนว่าฉันต้องไม่ยอมให้เงินของฉันหรอกจึงปฏิเสธกลับไปโดยไม่คิดกลัว แต่เคราะร้ายคนรับบาปจากโทสะของเหล่านักเลงดันไม่ใช่ฉันแต่เป็นพุตเด้งที่ถูกทำร้ายร่างกายจนสลบไปกับนอนกับเพื่อนก่อนที่รายต่อไปจะเป็นฉัน
ฉันถูกนักเลงซ้อมอย่างไม่ใยดีจนแว่นตาอันเป็นอวัยวะที่32ของฉันแตกหักไป เมื่อซ้อมจนสมใจอยากฉันที่ไร้แว่นตากลายเป็นเด็กตาบอดเลือดท่วมหัวพยุงตัวพุตดิ้งกลับบ้านไปโดยอาศัยความจำเส้นทางและขอร้องชาวบ้านตามทางผ่านช่วยนำทางไปจนถึงบ้านฉัน ฉันยืนอยู่หน้าบ้านของฉันมือโอบกอดร่างไร้สติของพุตดิ้งไว้หยดเลือดจากแผลบนหัวและใบหน้าของฉันไหลลงไปกระทบกับใบหน้าของพุตดิ้งจนหล่อนลืมตาขึ้นก่อนจะแสดงสีหน้าตกใจปนหวาดกลัวแล้วเข้าไปในบ้านของหล่อนซึ่งอยู่หลังข้างๆบ้านของฉันเอง
ฉันกดกริ่งเรียกคนในบ้านให้ออกมาก่อนจะลงไปนอนจมกองเลือดไป รู้สึกตัวลืมตาอีกทีฉันก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวได้อย่างชัดเจนเนื่องจากไม่มีแว่นให้ใช้อีกแล้ว ฉันหันมองด้านข้างเห็นเงาของคนลางๆประมาณสองคนก่อนมีเสียงดังขึ้นแสดงให้รู้ว่าเงาที่ว่านั่นคือแม่ของฉันเอง และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของจุดจบระหว่างฉันและพุตดิ้งเนื่องจากที่นั่งกันอยู่ไม่ได้มีแค่แม่ของฉันคนเดียว
"เป็นไงบ้าง พอจะมองออกมั้ยว่าเป็นแม่"
"ไม่ค่ะ แต่เห็นลางๆ"
"หรอ แม่จะบอกว่าไม่ได้มีแค่แม่น่ะที่นั่งอยู่แม่หนูพุตก็อยู่แกมีเรื่องจะคุยกับลูก"
"สวัสดีค่ะคุณแ-- "
"หนูพาทำอะไรกับลูกน้า ทำไมลูกน้าถึงเป็นแบบนี้"
"น.. หนู เปล่านะคะ หนูแค่จะช่ว-- "
"ไม่ต้องพูดหรอก น้าไม่อยากจะได้ยินคำแก้ตัวจากคนที่ทำให้ลูกน้าต้องเป็นแบบนั้นหรอก"
"...."
"คบเพือนเลวก็พากันไปเลวจริงๆ"
วินาทีนั้นความรู้สึกเจ็บปวดแทงเข้ามาในจิตใจ ทั้งโกรธและเศร้าที่ได้ยินคำนั้นออกมาจากปากของคนที่ฉันเคารพเป็นแม่คนที่สอง น้ำตาของฉันเริ่มไหลลงมาเป็นทางมืออันอบอุ่นของแม่ฉันจับมือของฉันไว้แน่นราวกับจะบอกว่าอย่าร้องออกมาให้ได้เห็น ฉันกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลอีกพลางพูดออกไปเสียงสะอึ่น
"ขอโทษค่ะ"
"อย่าได้มายุ่งกับครอบครัวฉันอีกล่ะ"
เมื่อเสียงนั้นจบลง เสียงฝีเท้าก้าวอย่างรุนแรงเดินออกไปสื่อให้รู้ว่าน้าแกได้เดินออกไปแล้วด้วยอารมณ์ที่ดุเดือด ฉันหันหน้าหาเงาลางๆของแม่ด้วยความสงสัยและโกรธเกรี้ยว
"ทำไมแม่ไม่เถียงไปล่ะว่าหนูไม่ได้ผิดสักหน่อยหนูพยายามช่วยพุตดิ้งชัดๆแถมหล่อนก็แค่โดนต่อยพุ-- "
ไม่ทันพูดจบมือใหญ่ๆก็ปิดประกบปากของฉันไว้อย่างแรงราวกับกำลังโมโหแต่ต่างจากน้ำเสียงนิ่งๆของแม่โดยสิ้นเชิง
"เพราะหนูผิดไงแม่เลยไม่เถียงเข้าใจไว้ซะเถอะ"
พูดจบมือของแม่ก็คละออกจากปากของฉันก่อนจะลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา แล้วก็เดินจากไปปล่อยให้ฉันนอนตาบอดอยู่ในห้องคนเดียวจนคิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ ทำไมกันล่ะทั้งที่ฉันทำเพื่อปกป้องยัยนั่นแท้ๆแต่กลับเป็นฝ่ายที่ถูกต่อว่าซะงั้น ความโกรธ ความแค้นกัดกินจิตใจของฉันจนอยากจะทำในสิ่งที่ฉันโดนมาใส่พุตดิ้งให้รู้ไปข้างนึงเลยว่าฉันน่ะเจ็บกว่าหล่อนมากแค่ไหน เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันก็เริ่มวางแผนว่าวันรุ่งขึ้นฉันจะไปสั่งสอนทั้งยัยลูกแสนโกหกกับยัยแก่ไร้เหตุผลให้รู้แล้วรู้รอด
รุ่งขึ้นวันถัดมาฉันหยิบแว่นสำรองของฉันที่แม่เก็บยามฉุกเฉินมาให้ฉัน ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านพร้อมความโมโหที่ขึ้นตาขึ้นหน้าจนแม่ฉันมองออกแต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไรแถมเดินตามหลังออกมาติดๆอย่างเงียบๆฉันหยิบแท่งไม้ก่อสร้างตามข้างถนนมาเพื่อหวังจะทำร้ายร่างกายยัยพุตดิ้งให้เข็ดแต่ก็ต้องล้มเหลวเมื่อบ้านทั้งหลังของพุตดิ้งไม่มีใครอยู่อีกแล้วเหลือเพียงแค่สิ่งของที่ไม่จำเป็นต้องพาไปด้วยก็เท่านั้น ความโมโหยิ่งกินใจฉันเข้าไปอีกเมื่อเห็นแบบนั้นเข้า
"อ้อด่าแล้วหนี เออดีจริงๆ" ฉันพูดออกไปพร้อมกับเบ่งสีหน้าอย่างโมโห
"แค้นไม่ได้ล้างด้วยการแก้แค้นหรอกนะลูก"
"อะไรอีกล่ะคะแม่ ทั้งที่หนูถูกแท้ๆแม่ยังจะเข้าข้างมันอีกหรอค่ะ"
"ปากเสียขึ้นเยอะเลยนะ แม่สั่งสอนให้ลูกเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน"
"ก็มันจริงมั้ยล่ะคะ หนูไม่ผิดด้วยซ้ำแม่น่ะไม่เข้าใจหนูเลย"
"แม่เข้าใจแต่แม่ทำอะไรไม่ได้ต่างหากล่ะ"
"ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะคะแม่เลือกที่จะไม่ทำเองมากกว่าทั้งที่ทำได้แท้ๆ"
"อย่าให้แม่ต้องโมโหเรานะ แม่บอกแม่ทำอะไรไม่ได้และหนูเองก็เป็นคนผิดยอมรับซะเถอะ"
"ไม่หนูจะไม่ยอมรับ หนูจะตามล้างแค้นยัยแม่ลูกคู่นั้นให้ได้"
"เห้อ แล้วแต่แกแล้วกันฉันจะไปทำหน้าที่ของฉัน"
พูดจบแม่ก็เดินหันหลังกลับไปทางบ้านก่อนจะหยุดเดินเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันมาหาฉันอีกครั้ง
"แต่ถึงอย่างนั้นหนูก็ไม่มีทางหาทั้งคู่เจอได้อีกครั้งหรอก"
"เพราะว่าแม่น่ะก็ถูกปฏิเสธมาด้วยเหมือนกัน"
แม่แสดงสีหน้าเศร้าโศกเสียใจกับการจากลาของเพื่อน ผิดจากฉันที่ขับความแค้นมาเต็มเปี่ยมและหวังไว้ว่าสักวันนึงฉันจะต้องหายัยพุตดิ้งให้เจอและสั่งสอนให้เข็ดไปชั่วชีวิตจะหาไม่
ความคิดเห็น